หน้าบทความ

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Phuket,Thailand "Phrom Thep Cape" Travel Thailand เที่ยวภูเก็ต แหลมพรหมเทพ

แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต
จุดชมวิวทะเล และชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด
Laem Phrom Thep (Phrom Thep Cape)Phuket,Thailand

ปีที่แล้วได้มีโอกาสไปเที่ยวภูเก็ตช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้ไปชื่นชมทะเลอันดามัน ตอนที่ไปพักแถวๆในตัวเมืองภูเก็ตและตระเวณเที่ยวชายหาดต่างๆที่มีชื่อเสียงของ จ.ภูเก็ต
เช่น หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดราไวย์ และแน่นอนต้องแวะมาที่นี่ด้วย แหลมพรหมเทพ
จริงๆ ก็อยากจะมารอดูพระอาทิตย์ตกนะ แต่ไม่แน่ใจฟ้าฝนเลยเดินชมวิวเท่านั้น แต่ก็ได้ความประทับใจไม่น้อย เพราะวิวสวยจริงๆ ลมพัดเย็นอีกด้วย และเราสามารถเดินลงไปที่แหลมได้ ระยะทางประมาณ  1 กม. 


Laem Phrom Thep (Phrom Thep Cape)Phuket,Thailand



แหลมพรหมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศซึ่งนิยมเดินทางมาชมพระอาทิตย์ตกทะเล การเดินทางไม่ยาก โดยอยู่ห่างจากหาดป่าตองประมาณ 25 กม. ห่างจากหาดกะตะและหาดกะรนเพียง 14 กม. เท่านั้น

หากว่าไปเที่ยวภูเก็ตแล้ว ยังไงก็ต้องแวะไปที่นี่ เพราะเป็นเสมือนแลนด์มาร์กของภูเก็ตเลยเชียวนะ
และยังเข้าโครงการ "12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน" ของททท.(คือการไปชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวในตำแหน่งและในช่วงเวลาที่ สวยงามที่สุด)
อ่านเพิ่มเติมโครงการ "12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน"ได้ที่นี่


กลางวันเดินเล่นที่ชายหาด ตกเย็นมาดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ตอนค่ำๆ ให้ไปเดินตลาดนัดท้ายรถ แหล่งช้อปตอนกลางคืนของภูเก็ต ขอไปหารูปตลาดก่อน จะเอามาลงให้ได้ดูกัน

Bye
See ya.

See more Phuket : รวมบทความเที่ยวภูเก็ต

หรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ read more รวมทริปท่องเที่ยว

ส่งสินค้า จากเวียดนามผ่าน สปป.ลาวและไทย ไปถึงเมียนม่า ( ขนส่ง AEC ตอน 2)

ขนส่ง AEC (ตอน 2)

เส้นทางที่ 2 East-West Economic Corridor (R9)

เสนทาง East-West Economic Corridor (R9)เปนเสนทางเชื่อมระหวางมหาสมุทรแปซิฟกทางตะวันออกและ มหาสมุทรอินเดียทางตะวันตก จุดเริ่มตนคือ เมืองดานังในเวียดนาม ผาน สปป.ลาว และไทย มายังเมืองมะละแหมงในเมียนมา จุดขามแดน สําคัญคือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแหงที่ 2 ที่ จ.มุกดาหารกับเมืองสะหวันนะเขต (สปป.ลาว) และดานพรมแดนแมสอด จ.ตาก กับเมืองเมียวดี ของเมียนมา มีระยะทางรวมประมาณ 1,450 กิโลเมตร
ที่มา โครงการศึกษาตนทุนการขนสงและโลจิสติกสระหวางประเทศในอนุภูมิภาคลุมแมน้ําโขง (GMS)สศช
สภาพเสนทาง เสนทางจากจุดผานแดนถาวรแมสอดไปเมียวดีเปนถนนลาดยาง 6 ชองจราจร ผิวถนนเรียบ เสนทางจาก เมียวดีไปกอกาเร็กเปนถนนลาดยาง  1  ชองจราจร ผิวถนนขรุขระไมมีไหลทาง ถนนคดเคี้ยวและลาดชันตามไหลเขา จึงกําหนดใหเดินรถไดทางเดียวโดยสลับทิศทางวันคูและวันคี่ มีการตั้ งดานเก็บคาธรรมเนียมผานทางนอกระบบของชนกลุมนอย โดยปจจุบันมีเสนทางตัดใหม เปนถนนลาดยาง 2 ชองจราจร ซึ่งคาดวาจะเปดใหบริการอยางเปนทางการในเดือนมิถุนายน 2558 สําหรับเสนทางจากกอกาเร็กไปมะละแหมง เปนถนนลาดยาง 2 ชองจราจร ไมมีไหลทาง ผิวถนนขรุขระเปนบางชวง เสนทางจากมะละแหมงไปพะโคเปนถนนลาดยางขนาด 2 ชองจราจร ผิวถนนคอนขางเรียบ สวนเสนทางจาก พะโคไปยางกุง เปนถนนลาดยาง 4 ชองจราจรไมมีไหลทาง ผิวถนนเรียบและมีการจราจรคอนขางหนาแนน สําหรับสิ่งอํานวยความสะดวกอาทิ สถานีบริการน้ํามันมีเฉพาะในแหลงชุมชน ทั้งนี้ ยังไมมีจุดพักรถบรรทุกและที่พักสําหรับคนขับรถที่ไดมาตรฐาน

สภาพการขนสงสินคา  รถบรรทุกสินคาไทยจําเปนตองเปลี่ยนถายสินคาที่เขตการคาชายแดนเมียวดี สวนใหญการขนสงสินคาเปนการขนสงสินคาเที่ยวเดียวจากไทยไปเมียนมาแตไมมีสินคาเที่ยวกลับ รวมทั้งยังไมมีการจํากัดน้ําหนักรถบรรทุก

คลิ๊ก >> เส้นทางที่ 2 East-West Economic Corridor (R9

ที่มา: โครงการศึกษาต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง (GMS) สศช.
       : รายงานต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศไทย ประจำปี 2557

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ติดตามให้ครบทั้ง 4 เส้นทางคราวหน้า

ขอบคุณค่ะ
คลิ๊ก>>รวมข้อมูล 4 เส้นทางขนส่งลุ่มแม่น้ำโขง 2557

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่ หาของกินที่ ตลาดวโรรส(กาดหลวง) (ต่อ)


เชียงใหม่  เที่ยวเชียงใหม่ หาของกินที่ ตลาดวโรรส


      หลังจากที่เราแนะนำเมนู ข้าวซอย ที่ตลาดวโรรสไปแล้ว ก็ขออีกเมนูละกันนะ เป็นเมนูที่เพิ่งจะเคยได้กิน ตอนที่ไปกินข้าวซอยที่กาดหลวงนี่ล่ะ ไปกินอาหารเหนือมาก็เยอะละ ไม่เคยเจอเมนูนี้เลย นั่นคือ"ข้าวกั๊นจิ๊น" (ไม่แน่ใจการเขียนและการออกเสียงนะ) แต่อร่อยดี ข้าวห่อด้วยใบตอง เป็นข้าวคลุกกะน้ำมันกะเทียมเจียวใส่หอมใหญ่ซอย ตัวข้าวมีรสชาตินะเหมือนผ่านการปรุงอะไรสักอย่างมาแล้ว แค่เราคลุกกะเครื่องเคียงที่มาพร้อมกะห่อข้าวก็กินได้เลย กินง่ายและอร่อย


ทีนี้เลยมาเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารพื้นบ้านล้านนา ซึ่งต้องขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก ศูนย์สนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
"ข้าวกั๊นจิ๊น" หรือข้าวเงี้ยว หรือจิ๊นส้มเงี้ยว เชื่อว่าเป็นอาหารของชาวไทใหญ่หรือเงี้ยว ใช้ใบตองห่อเช่นเดียวกับแหนม (จิ๊นส้ม) จึงเรียกว่า ข้าวเงี้ยว หรือจิ๊นส้มเงี้ยว บางสูตรไม่ใส่เนื้อสับ แต่ใส่เลือดคลุกเคล้ากับข้าวอย่างเดียว (สุรีพร ศรีสวัสดิ์, สัมภาษณ์, 9 กรกฎาคม 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า807)

ส่วนผสม : ข้าวสารเจ้า เลือดหมู    น้ำตาลทราย เกลือ กระเทียม น้ำมันพืช (บางสูตรใส่เนื้อหมูบด)       

เครื่องเคียง
1. พริกขี้หนูแห้งทอด
2. หอมหัวใหญ่
3. แตงกวา
4. กระเทียมเจียว


ทีนี้ก็สามารถไปแนะนำใครๆ ได้ละว่าไปเที่ยวเหนือ ไปกินอาหารเหนืออย่าลืมเพิ่มเมนูนี้เข้าไปด้วยนะ 
อร่อยดี และไม่แพงด้วย ร้านคุณป้าที่เราไปกินที่กาดหลวง ราคาสามห่อยี่สิบบาท 

ใครไปแอ่วเหนืออย่าลืมไปหา ไปลองกินนะคะ เป็นอาหารพื้นบ้านล้านนาแท้ๆเลยเจ้าา

ตามไปกินได้ที่ร้านข้าวซอย ตลาดวโรรส
www.warorosmarket.com/ตลาดวโรรส
ร้านข้าวซอย

ติดตามบทความแนะนำร้านกิน ของกินของเราได้ ที่นี่ รวมบทความร้านอาหาร

บทความหน้า ข้าวขาหมูคาวบอย เชียงใหม่ ข้าวขาหมูริมทาง แต่นักท่องเที่ยวกินตรึมม

บายย
See ya



เชียงใหม่ เที่ยวเชียงใหม่ หาของกินที่ ตลาดวโรรส(กาดหลวง)

Lazada Thailand

เชียงใหม่  เที่ยวเชียงใหม่ หาของกินที่ ตลาดวโรรส(กาดหลวง)
กิน ข้าวซอย ที่ตลาดวโรรส(กาดหลวง)
หากไปเที่ยวเชียงใหม่ เกือบทุกคนแหละต้องไปกาดหลวง หรือตลาดวโรรส เพื่อไปเดินช้อบปิ้งหาซื้อของฝาก และของกิน ซึ่งเราก็เช่นกัน :)

บทความนี้จะขอแนะนำ "ข้าวซอย" ของร้านอาหารเหนือที่อยู่ในตลาดวโรรส อร่อยดีและราคาไม่แพง
ร้านนี้ตั้งอยู่ชั้นล่างตรงร้านอาหาร(คล้ายๆฟูดคอร์ท แต่เล็กๆ) ลงบนไดไปจะเจอร้านข้าวซอยทันทีอยู่ตรงเสา(คือตั้งร้านตรงเสาเลยนั่นล่ะ) และมีหม้อดินตั้งอยู่สองสามหม้อ เป็นลุงกะป้าท่าทางใจดีช่วยกันขาย ทำเองขายเองจ้า

ข้าวซอยมีแบบน้ำข้น น้ำใส(ไม่รู้เรียกถูกไหม)
มีเส้นให้เลือกทั้งแบบกรอบ และแบบไม่กรอบ อร่อยทั้งสองแล้วแต่ชอบเลย
ข้าวซอยใส่น่องไก่
ข้าวซอยใส่ลูกชิ้นปลา
มีเส้นให้เลือก
พริกเผาสำหรับปรุง
นอกจากข้าวซอย แล้วคุณลุงกะคุณป้าก็มีอาหารอื่นๆ ขายด้วยนะ

เผื่อว่าใครเดินตลาดแล้วหิวก็แวะไปกินกันได้นะ แม่ค้าน่ารักมาก ใจดี อาหารก็อร่อยแทบทุกอย่างที่คุณป้าทำ คือลองกินทุกอย่างแล้ว ฮ่าฮ่า ราคาไม่แพงด้วยอร่อยกว่ากินตามร้านอาหารเหนือในกรุงเทพอีก
อย่าให้ได้เอ่ยชื่อร้านนะ (กลัวโดนเก็บ 555+)

เจ้าของร้าน 

สุดท้ายแถมรูปเจ้าของร้าน เพราะว่าอร่อยมากจนอยากถ่ายรูปเก็บไว้
เป็นที่ระลึก แล้วตอนไปกินครั้งที่สอง เราก็ไม่พลาด ^___^







คราวหน้ามีเมนูร้านนี้อีกเมนูนึง อร่อยเหมือนกัน อยากอวด ;)
Bye
See ya

ติดตามบทความแนะนำร้านกิน ของกินของเราได้ ที่นี่ รวมบทความร้านอาหาร

เที่ยวเชียงใหม่ กางเต็นท์นอนเชียงใหม่ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม

กางเต็นท์นอนเชียงใหม่
ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม 
ลานกางเต็นท์ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่

เมื่อปีใหม่ปีที่่แล้วได้มีโอกาสไปร่อนอยู่เชียงใหม่ มีความสุขมาก อากาศดี๊ดี ไปหลายวันด้วย และคืนแรกไม่ได้จองโรงแรมไว้ ตั้งใจไปหาลานกางเต็นท์ใกล้ๆตัวเมืองนอนกัน กูเกิ้ลดูเจอ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า
อ.แม่ริม ห่างจากประตูท่าแพซึ่งอยู่ตัวเมืองประมาณ 14 กม.

เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ได้เราก็เลยไปที่อ่างเก็บน้ำเลย รีบไปกางเต็นท์ก่อนแสงตะวันจะหมด
และก็หมดจริงๆนะ ฮ่าฮ่า เลยไม่มีภาพตอนกางเต็นท์ เพราะมืดมาก

อุณหภูมิตอนปีใหม่ช่วงกลางคืน หนาวมากก เต็นท์ชื้นกันเลยล่ะตอนเช้ามาถึงจะได้เก็บภาพความประทับใจ
ลานกางเต็นท์ ห้วยตึงเฒ่า
ลานกางเต็นท์ ห้วยตึงเฒ่า


บรรยากาศดี และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของตัวเมืองเชียงใหม่ เช่นประตูท่าแพ สวนสัตว์เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่่ในระยะไม่เกินยี่สิบกิโล เว้นแต่จะขึ้นดอยเท่านั้น

ที่นี่เหมาะสำหรับมาพักผ่อนชิวๆ เน้นสงบเงียบเป็นส่วนตัว หรือมาพักระหว่างทางเพราะบางรอบครัวเราเห็นว่ามากางเต็นท์นอนตอนดึกๆ สามสี่ทุ่ม พอเช้าตีห้าหกโมงก็เก็บเต็นท์ขับรถออกไปกันแล้ว เหมือนมาพักค้างแรม แล้วจะต้องเดินทางไปเที่ยวต่อไกลๆ หรือไปขึ้นดอยดูทะเลหมอกประมาณนั้น

ลานกางเต็นท์อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า
เปิด 9 โมงถึง 5 โมงเย็น
ค่าธรรมเนียมต่อหัวไม่ถึงร้อย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะคนละ 60 บาทสำหรับคนที่นำเต็นมาเอง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็มีเต็นท์ให้บริการนะ แต่คงต้องติดต่อสอบถามกันอีกที ห้องน้ำห้องท่า ไฟฟ้ามีให้ ไม่ขาดแคลน

ข้อมูลเพิ่มเติมก็ตามนี้นะ
http://thai.tourismthailand.org

การเดินทาง
https://www.google.co.th/maps 


อยากไปเที่ยวอีก คิดถึงเชียงใหม่
Bye
See ya


อ่านบทความอื่นๆ ได้: รวมบทความเที่ยวเชียงใหม่
หรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ read more : รวมทริปท่องเที่ยว

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วัดม่วง จ.อ่างทอง เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปเช้า - เย็นกลับ Wat Muang Ang thong

วัดม่วง จ.อ่างทอง
ไปทำบุญ ไหว้พระกัน
ออกจากปทุมธานีได้ ก็ดิ่งไป วัดม่วง เพื่อสักการะขอพรพระประธานองค์ใหญ่ (​พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ) ที่ใครผ่านไปทางนั้นต้องได้เห็น เพราะขนาดใหญ่มากจริงๆ (ขนาด w 63 M. x h 95 M​) เวลาขึ้นไปสักการะขอพร ของที่นี่คือให้นำมือไปแตะที่นิ้วขององค์พระประธานและขอพร  


องค์ใหญ่มากก

"​พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ
หลวงพ่อเกษม และศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวไทยน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เนื่องในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 9) เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค 2555 และสมเด็จพระนางเจ้าเพราะบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในวันที่ 12 ส.ค 2555"



ก่อนเดินไปสักการะท่าน ภายในวัดจะมีประติมากรรมตามความเชื่อทางศาสนาให้ได้เดินดู

คนบาป

พระวิหารแก้ว

พระวิหารแก้ว

ข้างในเป็นกระจกทั้งหมด สวยและมีตู้รับบริจาคให้เราได้ร่วมทำบุญด้วย เราชอบนำเงินใส่ในตู้เพราะเป็นการได้ทำบุญในกิจของสงฆ์และทางวัดอย่างแท้จริง ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำเป็นการทำบญทางด้านอุปโภค บริโภค เราจะได้ไม่ขัดสนเรื่องเหล่านี้ (คิดไปเองอ่ะนะ)

ไหว้พระเสร็จแล้วก็ต้องไปหาของอร่อยกิน มาอ่างทองต้องกินอะไรเราไม่รู้นะ แต่เรากูเกิ้ลมาว่าต้องไปกินข้าวที่ นิรมิต
ห่างจากวัดม่วงแค่ไม่กี่กม.เท่านั้น ดูได้ในแผนที่กูเกิ้ล
ร้านนิรมิต รีวิว
ชาเย็นอร่อยอ่า โต๊ะเรากิน 2 คน บอกว่าอร่อยทั้งคู่

เมนูมีหลากหลาย เหมือนร้านอาหารทั่วไป สั่งมาหลายอย่าง อร่อยทุกอย่างเลย ไม่รู้จะติตรงไหนดี บรรยากาศก็ไทยๆ










อิ่มบุญและอิ่มท้องฝุดๆ
ยังไงขอเรียนเชิญให้ออกมาท่องเที่ยวไหว้พระทำบุญกันนะ เข้าพรรษาปีนี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหน
ให้มาวัดม่วง มาชมบารมีหลวงพ่อองค์ใหญ่กัน ^^
😊


ดูแผนที่ วัดม่วง Map

Bye Bye
See ya

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ read more : รวมทริปท่องเที่ยว


Lazada Thailand

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 3) เลือกกองทุนรวม


หลังจากตอนที่แล้ว เลือกกองทุนและพร้อมจะออกไปซื้อที่ธนาคาร ปรากฎว่าระบบของทางธนาคารยังไม่เสถียรจึงไม่พร้อมเปิดบัญชีให้เรา -"-

ทีนี้เลยคิดว่าจะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในการคัดเลือกกองทุนแล้วกัน เพราะตอนที่แล้วรวบรัดไปหน่อยเพราะไม่อยากให้เยอะแยะมาก แต่ไหนๆก็ยังพอมีเวลาเราก็จะขอมาเพิ่มเติมอีกหน่อยนึง

ข้อมูลกองทุนรวมตลาดเงิน   2 ตัวเดิมที่เรานำมาเทียบครั้งที่แล้ว
K-MONEY ของบลจ.กสิกรไทย กับ B-TREASURY ของบลจ.บัวหลวง

หน้าเว็บของแต่ละบลจ.จะระบุข้อมูลเบื้องต้นของหุ้นไว้ประมาณนึง เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้ามาดู และหากสนใจผู้ลงทุนก็จะคลิ๊กเข้าไปโหลดหนังสือชี้ชวน และข้อมูลของกอทุนมาอ่านเพิ่มเติมต่อไป

ตัวอย่าง K-MONEY 

หลังจากที่เราเลือกหุ้นแล้ว หน้าเว็บจะแสดงราคา NAV ล่าสุดของหุ้นที่เราเลือกดู ซึ่งเป็นราคาแบบยังไม่รวมค่าธรรมเนียมใดๆ เป็นราคาที่จะใช้คำนวนในวันที่เราซื้อ ดูจากกราฟของ K-money ก็เรื่อยๆ ไม่ยึกยักขึ้นๆลงๆ เหมือนกลุ่มตราสารทุน หรือหุ้นสามัญ ก็อย่างที่เคยบอกไป กองทุนนี้ความเสียงไม่มาก แต่เป็นแบบเน้นคงเงินต้นไว้

ตัวอย่าง B-TREASURY



ของบัวหลวงก็แสดงข้อมูลคล้ายๆ กัน ซึ่งรายละเอียดจำพวก กองทุนนี้นำเงินไปลงทุนในแหล่งเงินใดบ้าง คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ มีค่าธรรมเนียมในการจัดการกองทุนกี่บาท และผลดำเนินการย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมาเป็นอย่างไร ในหนังสือชี้ชวนจะแสดงข้อมูลได้ครบถ้วนกว่านี้ หากสนใจให้โหลดมาอ่านกันเพราะมันสำคัญมากในการจะตัดสินใจเลือกซื้อสักกองทุนนึง

ยังไงถ้าสนใจจะลงทุนแล้วอยากให้ตั้งใจ และทำความเข้าใจเพราะเมื่อไรเราซื้อแล้วก็เท่ากับว่าเราเป็นเจ้าของ เราก็ควรจะต้องรู้จักของๆเรา จะได้จัดการบริหารได้ถูกต้องไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

เจอกันตอนต่อไป ตอนซื้อได้แล้วนั่นล่ะ เพราะคงต้องทิ้งระยะเวลาให้ระบบธนาคารเสถียร และที่สำคัญ
จะลางานได้ไหมน้อออ -_-"

บายย
see ya!

"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน"

อ่านตอนที่แล้วได้ที่นี่ >>> กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 2)

หรือติดตามบทความเกี่ยวกับการลงทุนของเราได้ที่นี่จ้า: รวมบทความ"มือใหม่หัดลงทุน"

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฟรี สัมมนา "รุกธุรกิจไร้พรมแดนบน DIGITAL PLATFORM กับ KBank" ข่าวประชาสัมพันธ์

ฟรี สัมมนา "รุกธุรกิจไร้พรมแดนบน DIGITAL PLATFORM กับ KBank"

เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งจากประเทศไทยและระดับโลก Face book, Google, Alibaba และอีกมากมาย
โดยงานนี้จัดที่ โรงละครเคแบงค์ สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้น 7





งานนี้ขอเรียนเชิญกลุ่มผู้สนใจธุรกิจ online และ ecommerce เข้าร่วมสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้และร่วมฟังประสบการณ์


แล้วเจอกันจ้าา

บายย 

กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 2) ซื้อกองทุนรวมไหนดี

ต่อจากตอนที่แล้ว เราดูอัตราดอกเบี้ยเงินฝากละ ทีนี้เราจะคัดเลือกกองทุนรวมที่เหมาะจะนำเงินออมของเราไปลงทุน

เลือกมาได้ 2 กองทุน ของแบงค์ใหญ่ๆ คือK-MONEY และ B-TREASURY ขอเปรียบเทียบกันแบบบ้านๆ แบบนักลงทุนมือใหม่อ่ะนะ คือดูที่หน้าเว็บไซส์ของบลจ. และดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวน ซึ่งมีข้อมูลสาระสำคัญๆของกองทุนนั้นๆ มาอ่าน

เริ่มต้นด้วย
K-MONEY ของบลจ.กสิกรไทย
ความเสี่ยงต่ำอยู่ระดับสอง (จาก1-8)  สถาพคล่องสูงขายคืนได้ทุกวัน และรับเงินหลังจากวันทำรายการ 1 วัน (T+1) ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายไม่มี มีแค่ค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ดูได้จากหนังสือชี้ชวนของ บลจ.กสิกร การซื้อครั้งแรก เริ่มขั้นต่ำ 500 บาท (ดี๊ดี) การแบ่งสัดส่วนลงทุน ลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก มีทั้งในไทย และต่างประเทศ (กระจายไปหลายทางดีเนาะ เผื่อได้กำไร 55+)
การดำเนินงานย้อนหลังดี มีกำไรบ้าง เยอะกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเราก็โอละ

ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือชี้ชวนฯ
อีกตัวนึงที่เข้าตา
B-TREASURY ของบลจ.บัวหลวง
ความเสี่ยงต่ำอยู่ระดับ 1 (จาก1-8)  สถาพคล่องสูงขายคืนได้ทุกวัน แต่รับเงินหลังจากวันทำรายการ 4 วัน (T+4) ก็ภายใน 5 วันได้เงิน ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายไม่มี มีแค่ค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ดูได้จากหนังสือชี้ชวนของ บลจ.บัวหลวง การซื้อครั้งแรก เริ่มขั้นต่ำ 500 บาท ดีเหมือนกองทุนด้านบน
การดำเนินงานย้อนหลังดี มีกำไร เยอะกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เปอร์เซนต์ดีกว่าตัวด้านบนนิดหน่อย แต่ก็มีต่างกันอยู่ที่ตัวนี้ลงทุนไม่มีไปลงทุนที่ต่างประเทศนะ

ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือชี้ชวนฯ
สรุปนะ เราว่าดีพอๆกัน
แต่คือเรามีบัญชีออนไลน์กับของกสิกร และต้องการให้มีความเสี่ยงบ้างเล็กน้อยกระจายไปลงทุนในต่างประเทศบ้าง ซึ่งเคมันนี่ก็ตอบโจทย์เราได้ดี และสภาพคล่องคือถ้าขายคืนก็ได้ตังค์เร็วกว่า ถึงจะไม่กี่วัน แต่ไลฟ์สไตล์การใช้เงินของเรามันต่างกันนะ :P เลยคิดว่าจะซื้อ K-money โดยให้หักเงินในบัญชีได้เลยตอนซื้อครั้งแรก และหากซื้อเพิ่มหรือขายเราสามารถใช้ระบบออนไลน์ที่มีของเราทำรายการได้เลย นับว่าสะดวกสำหรับเรา

และสำหรับใครที่สนใจจะซื้อกองทุนรวมให้ศึกษาข้อมูลกันดีดีนะ ว่าจะลงทุนตัวไหนดี ซื้อได้วันไหน อย่างไร เพราะอย่างที่เราเล่าให้ฟังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ย่นย่อมาก จริงๆเราดูไว้หลายกองทุนมาก อ่านรีวิวมาก็เยอะ เดินไปถามที่แบงค์ก็ไป สัมมนาฟรีเราก็ไปฟัง เพราะเรามือใหม่มาก เลยต้องการข้อมูลมาประกอบเยอะๆ จะได้ไม่มึน

แล้วครั้งหน้าจะมาแจงให้ฟังว่าซื้อแล้วเป็นไง ดูแลยังไงดี ติดตามกันได้จ้า

ศึกษาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซส์ของบลจ.
"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน"

อ่านตอนต่อไปได้ที่นี่ >>> กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 3)

หรือติดตามบทความเกี่ยวกับการลงทุนของเราได้ที่นี่จ้า: รวมบทความ "มือใหม่หัดลงทุน"
  



วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ออมเงินกับการลงทุนในกองทุนรวม


ทุกวันนี้ทำงานกินเงินเดือนอย่างเดียว เก็บเงินไม่ค่อยได้ หรือว่าง่ายๆ คือออมเงินไม่ค่อยจะเป็น
ปกติจะออมแบบง่ายๆ ไม่เสี่ยงด้วยการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ แต่ก็นั่นแหละ เห็นคนอื่นๆเค้า
เงินเดือนเยอะ เราก็อยากมีบ้างไรบ้าง ไว้เก็บไว้ใช้ยามเกษียณ หรือยามแก่เฒ่าไม่มีใครเลี้ยง หลายคนได้โบนัสปีละครั้ง หรือปีละสองครั้งก็นำเงินส่วนนั้นมาเป็นเงินออม หรือสร้างต้นทุนชีวิต ในด้านต่างๆ เช่นซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่กับเรามันไม่ใช่เลย ถ้าอยากได้อย่างนั้นต้องเปลี่ยนงานไปเลยล่ะ เลยมองหาแหล่งเงินออม แบบไม่สนเงินโบนัส แต่สามารถใช้เงินเดือน เงินฝากของเราเอง หากจัดการให้ดี  ก็น่าจะเป็นแหล่งเงินออมให้เราได้ไม่มากก็น้อย ช่วงนี้เลยสนใจเรื่องการลงทุนในกองทุนรวม เคยศีกษามาอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีสภาพคล่องพอจะนำเงินไปไว้ในกองทุนหุ้นแบบนี้

จนมาช่วงนี้ มีหลายกองทุนที่เหมาะกับเรา และอ่านมาแล้วว่าการลงทุนในกองทุนรวมมีข้อดีอยู่เหมือนกันนะ คือ มีมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญมาบริหารจัดการการลงทุนให้ ไม่ต้องมีเงินมาก เพียงแค่หลักพันก็ลงทุนได้ มีนโยบายหลากหลายให้เลือกลงทุน และช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้วยการกระจายการลงทุนไปยังกองทุนหุ้นต่างๆ ที่มีพื้นฐานและปัจจัยที่ดี  นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป และผลตอบแทนในส่วนของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษีด้วยนะ

ทีนี้เราเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับเราซึ่งปกติก็ฝากเงินไว้เฉยๆ ได้ดอกเบี้ยมาปีนีงสิบบาทยี่สิบบาทมั้ง
น่าจะลองนำเงินไปไว้ในกองทุนรวมแบบนี้เพื่อเพิ่มผลดอกเบี้ย และมีประสิทธิภาพ รวมถึงสภาพคล่องคล้ายกับเงินฝากออมทรัพย์ คือไม่ค่อยเสียงขาดทุน และสามารถนำเงินออกมาใช้ได้หากขายหน่วยลงทุนคืน (ก็แบบถอนเงินออกจากแบงค์)

เราว่านี่เป็นอีกทางเลือกหนี่งของการออมเงิน แบบดีกว่าฝังไว้ในใหเยอะเลย และยังมีสภาพคล่องดีกว่า
การซื้อประกันแบบออมเงินด้วย แต่ไม่ใช่ว่าการซือประกันออมเงินจะไม่ดีนะ เก็บเงินต้นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์และยังได้รับความคุ้มครองอีกต่างหาก ที่สำคัญยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย สำหรับเรา เราก็เลือกออมกับประกันออมทรัพย์ส่วนนึงเหมือนกัน นำไปใช้ลดหย่อนภาษี ไม่พอนะ ประกันออมทรัพย์ตัวที่เราซื้อยังมีนโยบายแบ่งเงินเบี้ยประกันไปลงทุนด้วย ได้ปันผลปีละครั้ง (คือเยอะกว่าดอกเบี้ยเงินฝากไง อิอิ)

นั่นล่ะ! ทำให้เราเล็งเห็นถึงโอกาสในกองทุนรวม ที่มีผู้ชำนาญนำเงินไปลงทุนให้เรา หาผลประโยชน์ให้เรา ที่เราต้องทำคือ รอรับปันผล ชิวๆ อยากรู้รายละเอียดการลงทุนก็เพียงขอดูรีพอร์ตจากผู้ดูแลกองทุนให้เราก็เท่านั้น เห็นมะ ไม่ยาก

งั้นต้องลองดูสักตั้งละ

ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อ ขอเวลาไปนับตังค์ก่อน ว่าจะซื้อกองทุนไหน จำนวนเท่าไร
ผลเป็นไง ฯลฯ

บายย

อ่านตอนต่อไป คลิ๊ก>> กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 1)
เริ่มต้นหาตัวตนและความต้องการทางการเงิน


กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 1) เริ่มต้นการออม

 ตอนที่แล้ว ("ออมเงินกับการลงทุนในกองทุนรวม") เราตัดสินใจว่าจะแบ่งเงินออมจากบัญชีออมทรัพย์ มาไว้ในกองทุนรวมสักกองนึงเพื่อเพิ่มดอกผล ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงเฟ้นหากองทุนให้ตรงใจกับการใช้เงินของเรา เราจึงเลือกเน้นหากองทุนความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูงคือสามารถนำเงินออกมาใช้ได้แทบจะทันที หากเราด่วนใช้เงินก้อน ให้สภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินฝากมากที่สุด ต้องการเงินเมื่อไรก็เบิกออกมาได้ทันที เลือกสองสามกองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์ฯ ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเราก็เลือกเป็นกลุ่มธนาคารที่เรามีบัญชีอยู่นั่นเอง กรุงไทย กสิกร กรุงศรี ประมาณนี้

เราเลือกกองทุนรวมตลาดเงิน เพราะกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ และเงินฝากซึ่งทำให้เสี่ยงน้อย เพราะไม่ผันผวนมากเหมือนหุ้น โดยเลือกจากสภาพคล่องของการซื้อขายหน่วยลงทุน อย่างน้อยต้องสามารถซื้อขายได้ทุกวัน (เผื่อต้องการนำเงินออกมาใช้ด่วน) และไม่มีค่าธรรมเนียม แต่อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจก่อนว่า สภาพคล่องจะไม่เท่าเงินฝาก หากต้องการขายหน่วยลงทุน(หุ้นที่เราซื้อไว้)ออกมา จะมีระยะเวลาทำการอย่างน้อย 1 วัน เช่นทำรายการขายคืนวันนี้ เราจะได้รับเงินในวันถัดมา จะไม่ได้ทันทีเหมือนเดินไปกดตังค์ที่ตู้ ATM ซึ่งหากตัดสินใจลงทุนแล้วต้องยอมรับเงื่อนไขตรงนี้

พอรับเงื่อนไขเรื่องสภาพคล่องได้แล้ว ก็มาดูการซื้อครั้งแรกว่ามีขั้นต่ำมากหรือน้อย ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกเยอะมากๆ 500 บาทก็ซื้อกองทุนรวมได้แล้ว ^^ แต่ก็ต้องขอแนะนำว่าลงทุนไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน ไม่ใช่ซื้อไว้แค่ห้าร้อยทิ้งไว้แล้วจบนะ อย่างนั้นไม่ได้ดอกผลอะไรเท่าไร

เปลี่ยนการออมบ้างเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากกว่าฝากเงินทิ้งไว้เฉยๆ ได้ผลตอบแทนน้อย เพราะไม่ได้นำออกไปเสียงลงทุนที่ไหน จะเสี่ยงก็ตามภาวะผันผวนของดอกเบี้ยตามศก.ก็เท่านั้น ฉะนั้นเราต้องเลือกกองทุนที่จะให้ผลประโยชน์กับเราแบบหนีดอกเบี้ยเงินฝากไปสักหน่อยแล้วกัน งั้นเริ่มต้นดูดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบันเพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกกองทุนก่อนเลย
ที่มา: http://www.thaibond.com
ตามตารางเราก็จะเห็นว่าดอกเบี้ยแต่ละธนาคารประมาณกี่% ซึ่งเราจะไม่ดูแบบฝากประจำนะ เพราะสภาพคล่องไม่ตรงกับความต้องการ

ตอนหน้าจะมาแสดงตัวอย่างกองทุนรวมที่น่าสนใจ และสรุปว่าตัวไหนตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้เงินของเราที่สุด

บายย
See ya!


อ่านต่อตอนที่ 2 ได้ที่นี่ >>    กองทุนรวม ใครๆ ก็ซื้อได้ (ตอน 2)


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน









วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุนเพื่อผู้ประกอบอาชีพอิสระได้มีบำนาญ

" ออมเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณ โดยรัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้ส่วนหนึ่ง"

ข่าวประชาสัมพันธ์

รัฐเดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ เริ่มรับสมัคร 18 ส.ค.นี้
-----
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2558 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ ( กอช.) ว่า ขณะนี้การจัดเตรียมระบบรองรับใกล้สมบูรณ์พร้อมให้บริการแล้ว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้รับสมัครสมาชิกรายแรกของกองทุนด้วยตัวเอง ในวันที่ 18 ส.ค.2558

ทั้งนี้ กอช.เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระหรืออยู่นอกระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐ หรือกองทุนเอกชนที่มีนายจ้างจ่ายสมทบแล้วซึ่งคาดว่ามีอยู่กว่า 30 ล้านคน ได้ออมเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณโดยรัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปี ก็จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพ ถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับชีวิตในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ และเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

โดยผู้สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ นาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีประมาณ 3,500 สาขาทั่วประเทศ โดยใช้หลักฐานเพียงบัตรประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น

สามารถส่งเงินสะสมขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 50 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี โดยเงินที่สะสมนี้จะได้รับดอกเบี้ยด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและคุณสมบัติของการสมัครสมาชิกได้ที่นี่ 

คลิ๊ก>>สาระสำคัญของ พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554

ที่มา: www.fpo.go.th



อ่านบทความการลงทุนอื่นๆ  >>ที่นี่

กินลมชมสะพาน ณ สะพานพระรามแปด ร้านอาหารบรรยากาศดี ริมเจ้าพระยา กรุงเทพฯ


เมื่อวันศุกร์ได้มีโอกาสเข้ากรุงเทพฯ เข้าไปในตัวเมือง กว่าจะไปถึงที่หมายก็ใกล้เที่ยงแล้ว ก็เลยหาร้านอาหารใกล้ๆแถวเส้นพระรามแปดเพื่อไปกินข้าว และต้องจอดรถได้ด้วย เราก็เลือกใช้ App google map นั่นแหละหาร้านอาหารใกล้เส้นทางที่เราผ่าน เจอร้าน "กินลมชมสะพาน" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านดูจากรีวิวแล้วบรรยากาศน่าจะดี ก็จัดแจงให้เนวิเกเตอร์นำทาง
 

ถึงแล้วคนไม่ค่อยเยอะ แต่โต๊ะเยอะมาก คงไว้รองรับลูกค้าช่วงเย็น เพราะร้านนี้เปิด 11 โมง ถึงเที่ยงคืน มีดนตรีสดด้วย ตอนกลางวันไม่มีนะ มีแค่เปิดเพลงเก๋ๆ แต่บรรยากาศดีเลยเชียวล่ะ




ริมเจ้าพระยา มองดูสะพานพระรามแปดไป กินข้าวไป เห็นเรือโดยสารแล่นผ่านไปผ่านมาได้บรรยากาศดีไปอีกแบบส่วนเรื่องอาหาร เราว่ารสชาติดีพอใช้ แต่ก็ได้คะแนนบรรยาศดีไปเต็มร้อย ร้านน่านั่ง นั่งเรื่อยๆ ชิวๆ 
ราคาอาหารพอๆกันกับ ร้านอาหารกึ่งผับทั่วไปของเราไปกินกับน้องสองคนสั่งสองอย่างตามรูปจ่ายไปเจ็ดร้อยกว่าบาท ข้าวสามจาน เอสสองขวด

ใครมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ แวะมากินได้ บรรยากาศดีจริงๆ มาเย็นๆหน่อยให้ได้เห็นแสงอาทิตย์ยามเย็นโรแมนติกๆ หรือมาค่ำๆ มาดูไฟที่สะพานพระรามแปดพร้อมกับกินข้าว จิบเบียร์เย็นๆ ฟังดนตรีสดไปด้วยคงฟิน 555 พูดแล้วก็อยากมานั่งชิวๆ อีกเหมือนกันนะเนี่ย






แผนที่ กินลมชมสะพาน
khinlomchomsaphan.com

เปิด 11 โมง ถึงเที่ยงคืน จ้า


Bye
See ya ^^

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ read more : รวมทริปท่องเที่ยว