วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

🌱 “หัวหน้างานแบบไหน...ที่ทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้นได้จริง?”

 คำว่า “นวัตกรรม” ไม่ได้เกิดจากไอเดียล้ำยุคเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ “ใคร” กล้าเปิดพื้นที่ให้มันเกิดขึ้นในทีมของเรา



ในช่วงที่ผ่านมา คำว่านวัตกรรมกลายเป็นคำฮิตในหลายองค์กร—รวมถึงที่ฉันทำงานอยู่ด้วย
ทั้งในการประชุม บอร์ดแผนงาน หรือแม้แต่ตอนพักเบรกก็ยังได้ยินเรื่องนี้วนเวียนเสมอ

แต่คำถามหนึ่งที่ทำให้ฉันหยุดคิดคือ…

“แล้วหัวหน้าแบบไหนล่ะ ที่ทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้นได้จริง?”


หลังจากเข้าเรียนหลักสูตรหนึ่งบน LinkedIn ชื่อว่า

“The Role of Leaders in Driving Innovation”

ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าผู้นำในทีมไม่ใช่แค่คนที่ตัดสินใจ แต่คือผู้สร้าง “บรรยากาศ” ที่ทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้นได้จริง

📌 สรุป 5 บทบาทของหัวหน้าที่ช่วยให้นวัตกรรมเกิดขึ้นจริง


1. 🎯 ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

นวัตกรรมต้องเริ่มจากปลายทางที่ชัด

ไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์สวยหรูบนสไลด์ แต่คือภาพของอนาคตที่ทีมทุกคนเข้าใจร่วมกัน ว่าเรากำลังมุ่งไปไหน และจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม

2. 📚 เข้าใจเนื้องานในเชิงลึก

ผู้นำที่ดีไม่กลัวจะ “เปื้อนมือ”

นวัตกรรมบางอย่างไม่ได้มีตัวเลขรองรับในทันที ผู้นำที่เคยลุยหน้างานมาก่อน มักฟังเสียงจากทีมได้ลึกกว่า และรู้ว่าจุดไหนควรให้ลอง จุดไหนควรหยุด

3. ⚖️ กล้าเสี่ยง แต่ไม่ใช่ลุยแหลก

เสี่ยงอย่างมีระบบ คือหัวใจของการทดลอง

ไม่ใช่การเสี่ยงแบบไม่มีแผน แต่คือการมองรอบด้าน มี Plan B และกล้ายืดหยุ่นปรับตามสถานการณ์โดยไม่เสียหลัก

4. 🕹️ เปิดพื้นที่ให้ทีมคิดเองบ้าง

นวัตกรรมไม่เกิดจากคำสั่ง แต่มาจาก “โอกาส”

หัวหน้าที่ไม่ micromanage แต่ให้กรอบที่ชัด แล้วปล่อยให้ทีมได้คิด ลอง ล้ม และเรียนรู้ด้วยตัวเอง มักได้ผลลัพธ์เกินคาด

5. 🪞 เป็นแบบอย่างที่ดี

หัวหน้าที่กล้ายอมรับความล้มเหลว จะช่วยให้ทีมกล้าลองมากขึ้น

เพราะความล้มเหลวในทีมไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรับมือร่วมกัน หัวหน้าที่เปิดใจ ทำให้ทีมรู้สึก “ปลอดภัย” ที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ


💭 แล้วพวกเราล่ะ… จะมีส่วนร่วมกับนวัตกรรมในองค์กรได้อย่างไร?


เขียนบทความนี้ขึ้นมา ไม่ได้จะบ่นใคร 😅
แต่เป็นเหมือนการชวนคิดว่า…
ถ้าวันหนึ่งเราได้เป็นหัวหน้า เราอยากเป็นแบบไหน?
และในวันนี้ ที่เรายังเป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีม เราจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?

บางครั้ง นวัตกรรมอาจเริ่มจาก “พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง”
ที่ตั้งคำถาม กล้าคิด และมีหัวหน้าที่ “เปิดทาง”

องค์กรที่ดีไม่ใช่แค่มีเป้าหมายร่วมกัน…
แต่ต้องมีวัฒนธรรมที่ทำให้ “ทุกคนกล้าร่วมสร้างอนาคต” 🌿


📝 #นวัตกรรมในองค์กร #หัวหน้าที่ดี #วัฒนธรรมองค์กร #บทบาทของผู้นำ #เรียนรู้จากLinkedIn #บทความองค์กร

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568

จาก Bard สู่ Gemini: จุดเปลี่ยนแห่งยุคใหม่ของ AI จาก Google



เมื่อโลกเทคโนโลยีก้าวไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนา AI ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ เช่นเดียวกับ Google ที่ในปี 2023 ได้เปิดตัว AI แชตบอตภายใต้ชื่อ “Bard” ซึ่งใช้โมเดลภาษาขั้นสูงจากตระกูล LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) Bard ถูกออกแบบมาเพื่อสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ข้อมูล และช่วยผู้ใช้คิดวิเคราะห์ผ่านการพูดคุย

แต่เพียงไม่นาน Google ก็เดินหน้าต่อไปอย่างทะเยอทะยาน ด้วยการพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ที่ทรงพลังและหลากหลายมากขึ้นในชื่อ “Gemini” ซึ่งเป็นโมเดลที่ Google DeepMind ร่วมพัฒนาขึ้น โดยออกแบบให้สามารถรับข้อมูลได้หลายรูปแบบพร้อมกัน (Multimodal) ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแม้แต่วิดีโอ

เหตุผลที่ Bard เปลี่ยนชื่อเป็น Gemini


ในต้นปี 2024 Google ได้ตัดสินใจรีแบรนด์ Bard ให้กลายเป็น Gemini อย่างเป็นทางการ เพื่อสื่อสารให้ชัดเจนว่า AI แชตบอตที่ผู้ใช้งานกำลังพูดคุยด้วยนั้น ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Gemini ที่ล้ำสมัยกว่ารุ่นเดิม ไม่ใช่แค่เครื่องมือแชตแบบเก่าอีกต่อไป แต่คือระบบ AI ที่ผสานความสามารถรอบด้านเพื่อเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างแท้จริง

การเปลี่ยนชื่อนี้ยังช่วยให้แบรนด์สื่อถึงอนาคตของ AI ที่หลอมรวมความคิดสร้างสรรค์ เข้ากับการประมวลผลขั้นสูง ทั้งยังสะท้อนแนวคิด “Gemini” ที่แปลว่า “คู่แฝด” ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเข้าใจทั้งภาษามนุษย์และข้อมูลหลายมิติพร้อมกัน


จากจุดเริ่มต้นสู่การเติบโต


ปี 2021: Google เปิดตัวโมเดล LaMDA

ปี 2023: Bard เปิดตัวเพื่อแข่งขันกับ ChatGPT

ปลายปี 2023: Google เปิดตัวโมเดล Gemini 1

กุมภาพันธ์ 2024: Bard เปลี่ยนชื่อเป็น Gemini อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวแอป Gemini บน Android และ iOS


การเปลี่ยนชื่อจาก Bard เป็น Gemini จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการตลาด แต่เป็นการปรับภาพลักษณ์เพื่อสะท้อนความสามารถที่เติบโตขึ้นของ AI จาก Google ทั้งในด้านเทคโนโลยี และความตั้งใจที่จะเป็นผู้ช่วยที่ครบเครื่องมากขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานทั่วโลก