เมื่อโลกเทคโนโลยีก้าวไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนา AI ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ เช่นเดียวกับ Google ที่ในปี 2023 ได้เปิดตัว AI แชตบอตภายใต้ชื่อ “Bard” ซึ่งใช้โมเดลภาษาขั้นสูงจากตระกูล LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) Bard ถูกออกแบบมาเพื่อสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ข้อมูล และช่วยผู้ใช้คิดวิเคราะห์ผ่านการพูดคุย
แต่เพียงไม่นาน Google ก็เดินหน้าต่อไปอย่างทะเยอทะยาน ด้วยการพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ที่ทรงพลังและหลากหลายมากขึ้นในชื่อ “Gemini” ซึ่งเป็นโมเดลที่ Google DeepMind ร่วมพัฒนาขึ้น โดยออกแบบให้สามารถรับข้อมูลได้หลายรูปแบบพร้อมกัน (Multimodal) ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแม้แต่วิดีโอ
เหตุผลที่ Bard เปลี่ยนชื่อเป็น Gemini
ในต้นปี 2024 Google ได้ตัดสินใจรีแบรนด์ Bard ให้กลายเป็น Gemini อย่างเป็นทางการ เพื่อสื่อสารให้ชัดเจนว่า AI แชตบอตที่ผู้ใช้งานกำลังพูดคุยด้วยนั้น ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Gemini ที่ล้ำสมัยกว่ารุ่นเดิม ไม่ใช่แค่เครื่องมือแชตแบบเก่าอีกต่อไป แต่คือระบบ AI ที่ผสานความสามารถรอบด้านเพื่อเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างแท้จริง
การเปลี่ยนชื่อนี้ยังช่วยให้แบรนด์สื่อถึงอนาคตของ AI ที่หลอมรวมความคิดสร้างสรรค์ เข้ากับการประมวลผลขั้นสูง ทั้งยังสะท้อนแนวคิด “Gemini” ที่แปลว่า “คู่แฝด” ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเข้าใจทั้งภาษามนุษย์และข้อมูลหลายมิติพร้อมกัน
จากจุดเริ่มต้นสู่การเติบโต
ปี 2021: Google เปิดตัวโมเดล LaMDA
ปี 2023: Bard เปิดตัวเพื่อแข่งขันกับ ChatGPT
ปลายปี 2023: Google เปิดตัวโมเดล Gemini 1
กุมภาพันธ์ 2024: Bard เปลี่ยนชื่อเป็น Gemini อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวแอป Gemini บน Android และ iOS
การเปลี่ยนชื่อจาก Bard เป็น Gemini จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการตลาด แต่เป็นการปรับภาพลักษณ์เพื่อสะท้อนความสามารถที่เติบโตขึ้นของ AI จาก Google ทั้งในด้านเทคโนโลยี และความตั้งใจที่จะเป็นผู้ช่วยที่ครบเครื่องมากขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานทั่วโลก