ตอนที่ 2 คืนต่อมา
ออกจากทุ่งแสลงหลวงคืนแรกมาได้พวกเราก็มากางเต็นท์ที่พระตำหนักเขาค้อนอนดูดาวกันต่อที่นี่
ที่นี่กางเต็นท์แบบเรียงไปตามหน้าผาเลยนะ นั่งเล่นนั่งกินหน้าเต็นท์ไป ชมวิวเขาค้อไป ฟินสุดๆ ดูรีวิวนี้แล้วก็ต้องหาโอกาสมาสัมผัสเองสักครั้ง เพราะภาพที่ถ่ายมาใช้เพียงกล้องมือถือถ่ายเท่านั้น วิวแท้จริงที่อยู่ตรงหน้ามันสวยชื่นใจมากกว่าภาพถ่ายเป็นไหนๆ พระอาทิตย์ที่เป็นดวงเดียวกันทั้งโลกมันก็มีมุมต่างให้เห็น ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ
วิวสวยและสดชื่นมาก ยืนชมวิวมองหาที่กางเต็นท์แป๊บเดียวก็หายเหนื่อยแล้ว ออกซิเจนคงเยอะ อากาศดีมากๆ และนี่เป็นวิวหน้าเต็นท์ เป็นไง อยู่บ้านจะได้เห็นอย่างนี้มั้ยล่ะ 555+
และนี่คืออาหารของการแคมป์ปิ้งคืนที่สองของพวกเรา คือกางเต็นท์เสร็จก็ตั้งเตา ทำอาหารเลยตั้งแต่บ่ายๆ ทำเผื่อกินตอนเย็นด้วยเลย เป็นไง มากันสามคนเองนะเนี่ย 555+ จัดเต็มอ่ะ ไม่มีอด
หากใครไม่สะดวกมาทำกับข้าวแบบพวกเรา ที่นี่มีร้านอาหารสวัสดิการ ร้านกาแฟ และตลาดนัดย่อมๆให้ได้เดินกิน เดินช้อปกันบนเขานี่เลย ไม่ต้องกลัวลำบาก มาเที่ยวทั้งทีจะได้พักผ่อนชาร์ทแบตให้กับตัวเอง
หลังจากเดินชมสวนดอกไม้และช้อบปิ้งตลาดนัดบนภูกันแล้วก็ไปนอนดูดาวต่อ เพราะท้องฟ้ามันโล่งมากดาวเต็มฟ้าเลย อากาศก็เย็นๆ คือฟินมาก วิวกลางคืนสวยมาก เห็นไฟตามวัดตามบ้านตามถนนด้านล่างมันสวยจริงๆ แต่ไม่มีภาพนะ เพราะมีแต่มือถือไปเลยไม่ได้ถ่ายภาพวิวกลางคืน
|
พระอาทิตย์ขึ้นที่พระตำหนักเขาค้อ |
พอเช้ามาก็ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนะ ส๊วย สวยอ่ะ เหมือนได้เห็นเป็นคนแรกในโลกเลย55+(ว่าไปนั่น)
ใครมีโอกาสก็มาพักผ่อนกันได้ ใครไม่มากางเต็นท์ ที่นี่มีห้องพักด้วย เป็นห้องสำหรับผู้ติดตามเสด็จ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวพักได้ มีที่นอน ห้องน้ำในตัว เหมาะสำหรับใครที่จะพาผู้ใหญ่ไปเที่ยวด้วย ระยะทางไม่ไกล และไม่ลำบากมากนัก รถเก๋งก็สามารถขึ้นได้ สบายๆเลย
จบละคืนที่สองของเรา พักผ่อนกันเต็มที่เลย กินอิ่มนอนหลับสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติสุดๆ
คืนต่อไปคืนสุดท้ายของทริปนี้ เราอยากนอนกันหนาวๆ เลยหาข้อมูลว่าจะเข้าไปเที่ยวในเมืองเขาค้อเพื่อชมวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว แล้วจิบกาแฟที่ร้านโมอาย ริมเขา และมุ่งไปตั้งแคมป์ต่อที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อิอิ...