การเดินทางไปแสวงบุญ ณ บนเขาคิชฌกูฏ
ปีหนึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้เดินทางขึ้นไปประมาณ 3 เดือนในช่วงต้นปีเท่านั้น และระหว่างทางการเดินทางไป นอกจากจุดหมายคือรอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขาแล้ว เราจะได้นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายตามเส้นทางเดินป่าของเรา นอกจากจิตใจที่อดทนและแน่วแน่ในการจาริกแล้ว ยังต้องมีสติและร่างกายที่พร้อมและสมบูรณ์เพื่อไม่ให้ไปเป็นตัวถ่วง ตัวพะวงในขณะที่เรากำลังเดินทางทำบุญในระหว่างเส้นทาง จิตใจพร้อม กายก็ต้องพร้อมด้วยนั่นเอง
เส้นทางเดินเป็นป่า เป็นเขา มีทั้งบันได ทางชันขึ้นๆลงๆ แต่ก็ไม่ได้เดินยากเย็นอะไรนัก เพราะจุดแวะพักเรายังสามารถเคารพ แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาอารักษ์ที่อยู่บนเขาแห่งนั้นได้ ไม่มีอะไรต้องรีบร้อน
แต่จะแนะนำว่า หากไปขึ้นเขาช่วงกลางคืน ซึ่งคนค่อนข้างเยอะเพราะขึ้นช่วงนี้อากาศจะเย็น ไม่มีแดดร้อน หมอกและน้ำค้างจะเยอะให้เตรียมหมวก และใส่รองเท้าหุ้มส้นไม่ลื่นไปจะเดินได้สะดวกกว่า ข้าวของก็ไม่ต้องพกไปเยอะแยะ เดินสบายๆตัว จิตใจเบิกบานดีกว่า หากกระหายน้ำ อยากเข้าห้องน้ำ ข้างบนนั้นเขาก็มีให้แวะซื้อหากันได้ ไม่ลำบาก และเมื่อไปถึงรอยพระบาทแล้วจะมีโรงทานแจกน้ำอาหารเล็กๆน้อยๆ ตรงจุดเช่าของดีของขลัง ทำบุญไหว้พระ
เมื่อนมัสการรอยพระบาทเสร็จแล้ว เวลาลงเขาให้ค่อยๆเดินอย่างรีบร้อนกลับลงมาแล้วขอให้มีความสุข และอิ่มบุญที่เราได้ทำไปในวันนี้ และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ขากลับกรุงเทพฯ ยังสามารถแวะวัดเขาสุกิม วัดนี้วิวสวย มีห้องอาบน้ำด้วย จากนั้นไปแวะเที่ยวทะเลระยองก็ได้อีก
การเดินทาง จากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวไว้ที่ลานจอดรถ จากนั้นโดยสารรถสองแถวไปเขาพระบาทออกจากวัดพลวงถึงบริเวณทางเดินเท้าขึ้นไปยอดเขาพระบาท ใช้เวลา 30 นาที
หรือหากใครไม่อยากนำรถส่วนตัวไป การเดินทางไปกับรถตู้บริการก็สะดวกมาก เพราะจะมีมืออาชีพขับรถให้เรา และแนะนำเวลาไปถึงว่าจะต้องเตรียมตัว และไปต่อรถขึ้นเขาตรงไหน ลงมาตรงไหน ไม่ต้องกังวลเรื่องจอดรถ อย่างตอนที่เราไปกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน 2 คน ก็ไปกับรถตู้บริการ โดยเสียคนละ 590 บาท (มีคนอื่นๆ ไปด้วย รถตู้ 1 คันโดยสารประมาณ 8-9 คน) ขึ้นรถตรงจุดที่เราสะดวกใกล้บ้าน รถจะพาไปที่คิชฌกูฏ และคนขับจะนำไปที่คิวรถกระบะขึ้นเขา และจะนัดกันตอนลงมาเพื่อขึ้นรถตู้กลับ โดยรถตู้จะพาแวะวัดเขาสุกิม และแวะชายหาดแม่พิมพ์ โดยคนขับจะสอบถามผู้โดยสารว่าอยากแวะ หรือไม่แวะก็ได้ เราว่าสะดวกดี และประหยัดเวลาด้วย ขึ้นรถตอนเย็น แล้วไปขึ้นเขาตอนสองสามทุ่ม ลงเขามาอีกทีตีสี่ ตีห้า ก็หลับบนรถแวะเที่ยววัดเขาสุกิม หาดแม่พิมพ์ และตลาดซื้อของฝาก ก็ตรงดิ่งกลับกรุงเทพฯเลย คล้ายๆ ไปกับทัวร์ ไม่ต้องเหนื่อยขับรถเอง
 |
| วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี |
 |
| อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี |
- ข้อมูลน่ารู้เพิ่มเติม
งานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ณ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
จัดขึ้นในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 2 ช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงเดือนมาฆบูชา (ประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม) ณ บริเวณยอดเขาคิชฌกูฏ ตำบลพลวง อำเภอมะขาม ภายในงานมีการจัดบวงสรวงเทวดาอารักษ์ พิธีปิดทองรอยพระพุทธบาท การจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏเป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายสิบปี ความเชื่อว่าได้บุญสูง และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทนไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ในอดีตจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาระยะทาง 15 กิโลเมตร แต่ในปัจจุบันมีรถบริการให้ประชาชนได้เดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ยอดเขาพระบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตามถนนลูกรังที่ลาดชันและคดเคี้ยวมาก ระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทิวทัศน์บนยอดเขาคิชฌกูฏหรือเขาพระบาทนี้เป็นปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยาที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาทหลวง หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ และหากต้องการจะเดินต่อไปจนถึงเขตผ้าแดง ซึ่งเป็นเขตสิ้นสุดที่สามารถเดินไปได้จะต้องเดินขึ้นเขาต่อจากลานพระบาทไปอีก 800 เมตร บนยอดเขาพระบาทมีอากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาวและตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน เฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปีจะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ยอดเขาพระบาทพลวง อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ บริเวณพื้นป่าเขาคิชฌกฏหรือเขาพระบาท อำเภอะขาม กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โดยพื้นที่โดยรอบจะประกอบไปด้วยภูเขา และมีทิวทัศนที่งดงาม และมีสถานท่องเที่ยวตามธรรมชาติอื่นๆ อาทิน้ำตกกระทิง, น้ำตกคลองช้างเซ ,น้ำตกคลองไพบูลย์นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าศึกษาธรรมชาติได้
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ จาก อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และ Sanook! Travel ,travel mthai, คู่หูนักเดินทาง
