วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ไม่มีรถส่วนตัว - สวนพฤกษศาสตร์ พระธาตุดอยสุเทพ ตัวเมืองเชียงใหม่



เที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ไม่มีรถส่วนตัว
2 คน งบคนละ 5000 เหลือๆ เอาไว้ให้เพื่อนๆที่สนใจอ่านเป็นแนวทางท่องเที่ยวนะจ๊ะ
(ค่าใช้จ่ายสรุปให้แล้ว ด้านล่างสุดของบทความนะ)


  • สวนพฤกษศาสตร์ canopy walk
  • พระธาตุดอยสุเทพ
  • สวนเฉลิมพระเกียรติ
  • วัดดอยคำ
  • วัดพระสิงห์
  • วันเจดีย์หลวง
  • หาของกินในเมืองไปเรื่อย 


จุดเริ่มต้นแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวก่อนปีใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ และรถติด
เราจึงเลือกการเดินทางขาไป นั่งรถทัวร์นครชัยแอร์ ขากลับนั่งเครื่องบินแอร์เอเชีย (จองไว้เนิ่นๆนะ เผื่อได้ราคาดีๆหน่อย)

เริ่มจากเลิกงานมาตอนเย็น ก็เตรียมตัวเดินทางไปสถานีรถนครชัยแอร์ใกล้บ้านท่าน ของเรานั่งแท็กซี่ไปประมาณ90บาท

รถทัวร์ออกจากสถานีต้นทาง 21.30 น ประมาณ สามทุ่มก็ต้องมารอที่สถานีละ
พอขึ้นรถได้ก็มีข้าว มีขนม มีหนังให้ดู ไม่ต้องกลัวเบื่อ กินแล้วก็หลับยาวไปจนถึงลำปาง เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ได้ก็ 6 โมงเช้าพอดี เป๊ะมาก ไม่มีเลท สามารถคำนวณเวลาเที่ยวได้อย่างแม่นยำ ชอบให้5ดาว

Day 1 
เวลาโดยประมาณนะ
08.00 น.  นัดรถเช่า(ที่พร้อมคนขับและรวมน้ำมันแล้ว) 2000 เที่ยวได้ทั้งวัน (รถฟอร์จูนเนอร์)
จุดหมายแรกของเราคือไปกินข้าวที่โอรสเด็ด และไปแม่ริม เพื่อเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์ฯ และcanopy walk แล้วกลับเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยวดอยสุเทพต่อ

(ที่แม่ริม ยังสามารถแวะเที่ยวม่อนแจ่ม น้ำตกแม่สาได้ด้วย อยู่ที่จะใช้เวลากันยังไงนะ)
 เส้นทางเที่ยว
 เส้นทางเที่ยว

canopy walk 
เราไปถึงเช้ามากๆ เนื่องจากอยากได้รูปถ่ายแบบไม่ติดคนอื่่น เลยยกเลิกการแวะร้านกาแฟ และตรงดิ่งมาที่นี่ อากาศสดชื่นสุดๆ และเราอยู่ที่นี่นานพอสมควร  แนะนำเที่ยวตรงนี้ก่อน แล้วค่อยไปโรงเรือน เพราะต้องขับรถวนไปอีก ฉะนั้นขึ้นมาเที่ยวที่นี่ก่อนเลย 

มีโรงเรือน และดอกไม้ พืชพันธ์มากมาย เดินกันให้ทั่วๆ เพราะอากาศดีมาก ร่างกายจะได้ฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า เนื่องจากทำงานมาทั้งปี

คลิกดู Map เส้นทาง

11.30 น. เราก็กินข้าวกลางวันที่นี่เลย อาหารอร่อยมาก มีตามสั่ง ก๊วยเตี๊ยว ราคาก็ไม่แพงด้วย แล้วก็หาที่เที่ยวต่อได้เลย ซึ่งเราเลือกที่จะไปดอยสุเทพกันเลย ไม่ไปม่อนแจ่ม (เผื่อไว้มารอบหน้าอีก55+)
ออกจากสวนพฤกษฯ ประมาณเกือบๆบ่ายโมง ไปดอยสุเทพต่อ

14.00 น. เราก็ขึ้นดอยสุเทพ ขึ้นกระเช้าไป20บาทเพราะคนน้อยไม่ต้องรอคิว ไปไหว้พระธาตุ และชมวิวเมืองเชียงใหม่ เราอยู่บนนี้สักพักใหญ่ๆ เพราะไม่มีแพลนไปไหนอีก กะว่าลงจากดอยก็จะเช็คอินพักผ่อน เพื่อออกหาที่เที่ยวช่วงค่ำๆ

16.00 น. เราให้รถเช่ามาส่งที่โรงแรม และจ่ายค่าเสียหาย 2000บาท ซึ่งพี่คนขับยังแนะนำให้เราไปกินอาหารที่ร้านโอ้กะจู๋ ในวันพรุ่งนี้ เราก็เลยมีแผนไปกินกลางวันที่นั่นวันพรุ่งนี้หลังเช็คเอ้าท์

check in @ Bed ช้างเคี่ยน ใกล้กับมช. เข้าซอยมานิดนึง สำหรับเราถือว่าติดถนนใหญ่นะ สะดวกเดินทาง


วิวจาก Bed ผนังเป็นกระจกใส ชมวิวได้กว้างสุดๆ 
และที่นี่น้ำเปล่าไม่อั้นเป็นขวดหยิบไปดื่มได้เลย และที่นอนยังนุ่มมากๆ ที่พักสะอาด บรรยากาศดี

ทริปแนะนำช่วงเย็น Day 1
ออกจากที่พักไปหาของกิน จะหน้ามช. หรือไปนิมมานก็ได้ แล้วแต่ใจจะอยากไปไหน แวะเที่ยวสวนเฉลิมพระเกียรติ ก็ได้ โดยขับรถไปทางสนามกีฬา 700ปี สถานที่ใกล้ๆกันหมด แต่ยังไม่ต้องเข้าไปเที่ยวเขตเมืองเก่า เพราะจะเที่ยวกัน Day 2
  •    แนะนำ ช่ามอเตอร์ไซด์จากร้าน bikky นัดรับรถแถวตลาดหน้ามช. หรือตามสะดวก) ราคา 250 บาทต่อวัน รวมน้ำมัน 50 บาท เราเช่า 2 วัน รวม 550 บาท เช่าเผื่อไปจนวันกลับเลย จะได้ขี่ไปสนามบิน และคืนรถที่นั่นเลย สะดวกดีไม่ต้องหารถแดงไปสนามบิน

Day 2 

8.30 น. ตื่นอาบน้ำ ลงไปหาของกิน (ตื่นสายนิดนึง เตียงมันนุ่มมากไม่อยากลุก 55)

ที่นี่บอกว่าไม่มีอาหารเช้าให้นะ มีแค่อาหารรองท้อง กาแฟ น้ำผลไม้ ขนมปัง ข้าวเหนียวหมู ข้าวเหนียวไก่ กล้วย ฯลฯ ก็พออิ่มอ่ะนะ .......555+  แถวภาคกลางนี้คืออาหารเช้าดีดีเลยนะเนี่ย ^^

จากนั้นก็ออกเที่ยวตามอัธยาศัย แต่สำหรับเราคือ พักผ่อนชมวิวอยู่ที่ห้องจนเกือบๆเที่ยง ค่อยออกไปเที่ยวต่อ เพราะอยากมาพักผ่อนจริงๆ นอนอิ่มๆ แล้วค่อยเข้าเมืองเก่าไปเที่ยววัดสำคัญๆของเชียงใหม่
(คืนที่สองเราไปนอนที่เฟื่องฟ้าเพลส เขตเมืองเก่า เพราะว่าสะดวกเที่ยววัด และประตูท่าแพตอนค่ำ)

12.00 น. check out  และตรงไปที่พักก่อน เพื่อฝากกระเป๋า และจะไปกินผักที่โอ้กะจู๋ เค้าว่าผักเยอะ แต่พอไปถึงคนเยอะกว่า คิวยาวเหยียดจนท้อ เพราะหิวแล้ว จึงไปกินที่ร้านสวนผักแทน

สั่งสลัดผัก และชุดน้ำพริกหนุ่มมากิน กินอาหารถิ่นเพิ่มฟิลลิ่ง อาหารอร่อย อิ่มไปหนึ่งมื้อ

จากนั้นก็ต่อด้วยของหวาน
ร้านใกล้ๆกันเลย มีไอติม เครื่องดื่ม ร้านน่านั่งบรรยากาศดี

15.00 น. เที่ยววัด ขับผ่านวัดไหนก็แวะไหว้พระได้เลย วัดเยอะแยะ
วัดเชียงคำ / อนุสาวรีย์สามกษัตริย์

วัดพระสิงห์ ตัวเจดีย์เป็นสีทองแล้ว สวยมาก

วัดเจดีย์หลวง 
ลองจินตนาการตอนที่พระเจดีย์ยังสมบูรณ์ และมีกรุสมบัติล้ำค่าอยู่ด้านใน ดูมีมนต์ขลัง และอลังการมากๆ เสียดายเหมือนกันที่เราได้มาดูตอนนี้ พังไปเกือบหมดแล้ว

ในเขตเมืองยังมีอีกหลายวัดนะ 
ประตูท่าแพ ถนนคนเดิน (เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มั้งถ้าจำไม่ผิด)



ส่วนของกิน ก็หาตามทาง หรือเสิร์จกูเกิลได้เลย เยอะแยะ และไม่ไกล เดินทางสะดวก ยิ่งขับมอไซด์ ยิ่งสะดวกในการท่องเที่ยว 
ของกิน ที่แนะนำ คือ บุฟเฟ่ต์เมียงดง และข้าวขาหมูคาวบอย หรือข้าวขาหมูช้างเผือก ทุกที่มีในกูเกิล 555+ หาง่าย ไม่ต้องกลัวอดของอร่อยๆ

20.00 น. ก็เข้าที่พัก พักผ่อนนอนให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านแล้ว
 เส้นทางเที่ยว


Day 3 
7.30 น. ตื่นมากินอาหารเช้าในที่พัก (แถมมากับค่าห้องแล้ว) หรือใครจะออกไปหาไข่กระทะ โจ้กข้างนอกก็ได้ ไหนๆก็มาเชียงใหม่แล้ว เพราะร้านเยอะและใกล้ๆกัน 

หากจะซื้อของฝากก็แนะนำ ไปตลาดวโรรส (กาดหลวง) เลยช่วงเช้า แล้วก็ค่อยเช็คเอ้าท์กลับก็ได้เหมือนกัน

สำหรับเรา เราพักผ่อนเตรียมตัวกลับตอน บ่ายโมง ไฟล์ทเรา 13.30 ตั้งใจไปสนามบินประมาณ 11.00น. เพราะเราต้องไปคืนมอไซด์ด้วย เลยเผื่อเวลาเยอะหน่อย กลัวรถติด
 เส้นทาง



จบละทริปเที่ยวเชียงใหม่ง่ายๆของเรา อาจจะไม่หวือหวามาก เพราะเราเคยมาเที่ยวเชียงใหม่แล้ว
แต่ครั้งนี้มาแบบ ไม่มีรถส่วนตัว จึงอยากนำมาแชร์ให้คนที่อยากไปพักผ่อนด้วยตัวเอง
เจอกันอีกทีทริปหน้า บาย บาย 



สรุปค่าใช้จ่าย2 คน รวม 9,257 /2 = 4,629 บาท ต่อคน
  • ค่าเดินทางไปสถานีรถนครชัยแอร์ 90 /2 = 45
  • ค่าเดินทางขาไป นครชัยแอร์ 596 บาท 
  • ค่าเดินทางขากลับ แอร์เอเชีย 768 บาท
  • ค่าที่พัก Bed 800 คืนแรก รวมอาหารรองท้องตอนเช้า
  • ค่าที่พัก เฟื่องฟ้าเพลส คืนสอง 800 รวมอาหารเช้า
Day 1 ...1300บาท
  • เช่ารถ พร้อมคนขับ 2000 บาท 1 วัน หาร2 =1000
  • กาแฟ 60
  • ค่าข้าวโอรสเด็ด 35 
  • ข้าวกลางวันที่สวนพฤกษศาสตร์ 40
  • ค่าเข้าชมสวน 180 / 2 = 90 บาท
  • ดอยสุเทพ ค่าขึ้นกระเช้า 20
  • ทำบุญ ตามศรัทธา
  • อาหารเย็น ขนม ประมาณ 200
Day 2 ....625บาท
  • เติมน้ำมันรถมอไซด์ 50 /2 = 25
  • อาหารกลางวันสวนผัก 500/2 =250
  • ของหวาน 150
  • อาหารเย็น เมียงดงบุฟเฟ่ต์ 200 

Day 3 ....475บาท
  • ค่าเช่ารถมอไซด์ 2 วัน 500 / 2 = 250 
  • ค่าคืนรถที่สนามบิน 50 / 2 = 25
  • ค่าอาหารในสนามบิน 200
  • ค่าเดินทางจากดอนเมืองไปบ้าน 200 /2 = 100



เที่ยวเชียงใหม่ กางเต็นท์นอนเชียงใหม่ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม


เที่ยวเพชรบูรณ์ 3 คืน 4 วัน (แคมป์ปิ้ง)

เที่ยวเพชรบูรณ์  ตอนที่ 1 >>>>คืนแรกกางเต็นท์ที่ทุ่งแสลงหลวง 
เที่ยวเพชรบูรณ์  ตอนที่ 2 >>>>นอนที่พระตำหนักเขาค้อ
เที่ยวเพชรบูรณ์  ตอนที่ 3 >>>> น้ำหนาว หนาวจริงๆ





วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การแต่งกายในช่วงไว้ทุกข์เดือนตุลาคม 2560 Farewell to Beloved King Bhumibol

การแต่งกายในช่วงไว้ทุกข์เดือนตุลาคม 2560 Farewell to Beloved King Bhumibol 

แนวทางการแต่งกายไว้ทุกข์เดือนตุลาคม 2560 เพื่อแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนแต่งกายชุดดำสุภาพ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-29 ตุลาคม 2560

การแต่งกายในช่วงไว้ทุกข์
          - เสื้อ ควรใส่สีดำเป็นหลัก หากมีความจำเป็น สามารถใส่สีขาว สีเทา หรือเป็นสีโทนเรียบ ตัวเสื้อไม่พิมพ์ลายมากจนเกินไป ตัดเย็บแบบสุภาพ แล้วติดริบบิ้นสีดำ ไว้อาลัยที่หน้าอกด้านซ้ายแทนได้ ในส่วนของเครื่องแบบของหน่วยงานใส่ไว้ทุกข์ได้ โดยติดริบบิ้นสีดำไว้ที่แขนเสื้อด้านซ้าย หรือแถบผ้า, ปลอกแขนไว้ทุกข์สีดำ
          - กางเกง ควรเป็นกางเกงขายาว สามารถใส่กางเกงยีนส์ได้ แต่ไม่ควรเป็นกางเกงยีนส์ขาด และควรเป็นสีเข้ม
          - กระโปรง หรือชุดเดรส ควรเป็นชุดที่กระโปรงยาวคลุมเข่า แบบสุภาพเรียบร้อย หากชุดเดรสที่เป็นแขนกุด ควรหาเสื้อนอกสีดำแบบเรียบๆ มาคลุมทับ
          - รองเท้า หุ้มส้นสีดำ - ชุดข้าราชการ, ชุดเจ้าหน้าที่, ชุดปฏิบัติงาน, ชุดนักเรียน-นักศึกษา สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรนั้นๆ
          *ไม่ควรนำมาสวมใส่เสื้อดำที่มีตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 9 เพื่อแสดงความอาลัย เนื่องจากถือว่าเป็นการผิดกาลเทศะ เพราะไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต
------------------------------
การแต่งกาย กรณีเดินทางไปถวายดอกไม้จันทน์
          - สุภาพบุรุษ สวมเสื้อเชิ้ตสีดำไม่มีลวดลาย กางเกงสแล็คสีดำ ไม่ควรสวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าหุ้มส้นสีดำ ไม่มีลวดลาย ไม่ควรใส่รองเท้าผ้าใบ
          - สุภาพสตรี สวมชุดสีดำเป็นหลัก เสื้อมีแขน คอไม่กว้าง ไม่รัดรูปจนเกินไป กระโปรงคลุมเข่า ผ้าซิ่น หรือสวมชุดเดรสยาวคลุมเข่า รองเท้คัตชู หุ้มส้นแบบสุภาพปิดด้านหน้าและด้านหลัง สีดำหรือสีเรียบๆ ไม่มีการประดับตกแต่งแวววาว
          - ข้าราชการ แต่งเครื่องแบบตามหมายรับสั่งหรือหมายกำหนดการของพระราชวัง โดยให้ใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้าโปร่งสีดำ ขนาดกว้าง 7-10 เซนติเมตร พันแขนซ้ายเบื้องบน
------------------------------
การแต่งกายช่วงวันออกทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2560
          ประชาชนสามารถสวมใส่เสื้อผ้าสีสันได้ตามปกติ หรือเลือกสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีสุภาพ ไม่ฉูดฉาดมากเกินไป
ขอขอบคุณภาพจากเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ฯ

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ร้านโออิชิ อีทเทอเรียม สาขาฟิวเจอร์พาร์ค Oishi Eaterium@Future Park

OISHI EATERIUM สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตเปิดแล้ววันนี้ 
ใครอยู่ย่านรังสิต ห้ามพลาดดดด !!! 

บุฟเฟต์ไม่อั้น สไตล์ญี่ปุ่น
เชิญชมบรรยากาศกันเลยรับรองดูไป น้ำลายไหลไป ฮ่าฮ่า
แซลมอล

แซลมอลสไลด์ 

เทมากิ


บรรยากาศญี่ปุ่นๆ



สุกียากิ ญี่ปุ่น


อาหารหลักๆของแบรนด์โออิชิมีครบ และเพิ่มเติมอีกมากมาย กินกันไม่อั้น พร้อมของหวาน บิงซู ฯลฯ
ที่ชั้น B โซนเซ็นทรัล ฟิวเจอร์พาร์คเปิดทุกวัน เวลา 11.00- 22.00 น. 
ราคา 659 บาท+ /คน อิ่มอร่อยไม่อั้นได้นานถึง 1 ชั่วโมง 45 นาที บอกเลย ห้ามพลาด!!


Cr.Page:Future Park Society 

แผนที่ไปฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คลิก>>






วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

ของโหลดใต้เครื่อง ของโหลดขึ้นเครื่อง ของต้องห้ามขึ้นเครื่อง คำแนะนำสำหรับผู้โดยสารเครื่องบิน_Air trans prohibited

ของโหลดขึ้นเครื่อง ของเหลวห้ามขึ้นเครื่อง Power Bank ขึ้นเครื่องบิน 



ก่อนเข้ารับการตรวจบัตรโดยสารหรือเช็คอิน (Check-In)
  •  นำของเหลว เจล และสเปรย์ หรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันที่มีขนาดบรรจุภัณฑ์เกินกว่า 100 มิลลิลิตร รวมทั้งวัตถุแหลมคม ทุกชนิดใส่ในกระเป๋าสัมภาระที่จะผ่านเช็คอินเพื่อลำเลียงส่งขึ้นเครื่องบิน
  •  หากต้องการนำ ของเหลว เจล สเปรย์ ถือติดตัวขึ้นบนเครื่องบิน ของเหลวนั้น ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยต้องนำใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสแบบ Zip-Lock ขนาด 20x20 เซนติเมตร (มีจัดเตรียมไว้ที่โต๊ะหน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน) ผูโดยสาร 1 คน ต่อ 1ถุง ปริมาณของเหลวเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร (หรือ 1 ลิตร)
  •  ผู้โดยสารที่มีอาวุธปืนต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารและแยก เครื่องกระสุน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้
  •  ผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้นำพาสารหรือวัตถุอันตรายทุกชนิดไปกับเครื่องบินไม่ว่าจะบรรทุกไปกับสัมภาระที่เช็คอินหรือนำติดตัว ขึ้นเครื่องบิน

♥ ประกาศสำนักงานการบนพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน พ.ศ. ๒๕๕๙




"แบตเตอรี่ลิเธียมที่ไม่ระบุความจุกระแสไฟฟ้า วัตต์-ชั่วโมง (Watt-Hour : WH) หรือขนาดบรรจุของลิเธียม (Lithium Content :LC) 


หรือระบุไม่ชัดเจน ห้ามมิให้พาไปกับท่าอากาศยาน ไม่ว่าจะใส่ในสัมภาระติดตัวหรือสัมภาระลงทะเบียนก็ตาม"




อ่านข้อมูลเพิ่มเติมด้านความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารได้ ที่นี่ >>>




รีวิวแนะนำท่องเที่ยว



เที่ยวพักผ่อน / แคมป์ปิ้ง


วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 2560 ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย -15 พ.ค. 2560

ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 2560  ลงทะเบียนคนจน 2560

(ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเงินฝากในธนาคารดังกล่าว)
ผู้ที่ไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง สามารถมอบฉันทะให้บุคคลอื่นไปลงทะเบียนแทนได้ โดยติดต่อขอใบมอบฉันทะได้ที่ธนาคารที่เปิดให้ลงทะเบียน

ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 2560 
ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย -15 พ.ค. 2560

คุณสมบัติ

  1. ผู้ที่ว่างงานหรือมีรายได้ทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นในแต่ละปีปฏิทินไม่เกิน 100,000 บาท โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รายได้ การถือครองทรัพย์สินของตน เจ้าหนี้และจำนวนหนี้สินที่คงค้าง เป็นต้น
  2. อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  3. มีสัญชาติไทย 
ประโยชน์ที่จะได้รับ 
ช่วยทำให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลของผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากการลงทะเบียนจะต้องแสดงข้อมูลรายได้ ทรัพย์สิน และการเป็นหนี้สิน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทราบข้อมูลและสามารถนำไปกำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซท์ของโครงการ
http://welfare2560.epayment.go.th/


วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เทศกาล“เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5" ภาค 24 จังหวัด ณ ศุนย์ฯสิริกิติ์ 15-19 กุมภา 2560 นี้

เทศกาล“เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค”
จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
พบกับสินค้า,บริการท่องเที่ยว, สายการบินและตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ  แพ็คเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สินค้า OTOP และอาหารถิ่นทั่วไทย ฯลฯ จาก เมืองต้องห้ามพลาด Plus 24 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสงคราม + นครปฐม , ราชบุรี + สุพรรณบุรี , ลำปาง + ลำพูน , น่าน + แพร่ , เพชรบูรณ์ + พิษณุโลก , เลย + ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ + สุรินทร์ , จันทบุรี + สระแก้ว , ตราด + ระยอง , ชุมพร + ระนอง , ตรัง + สตูล , นครศรีธรรมราช + พัทลุง) รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรม 5 ภาค

และมีโซนสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้
การให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวไทย& ข้อมูลข่าวสาร "70เส้นทางตามรอยพระบาท"
ตลอดจนเล่นเกมส์ลุ้นรางวัลของที่ระลึกต่างๆ มากมายจาก ททท. ทุกๆ 1 ชั่วโมง

ไปงานเดียวทั้งเที่ยว ทั้งกิน ได้แพ็คเกจเที่ยวเด็ดๆเพียบ 
งานจัดขึ้นวันที่ 15 - 19 กุมภาพันธ์นี้ 
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

Cr. ททท.

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ณ สวนลุมพินี ในวันที่ 25-29 มกราคม 2560 เวลา 14.00 - 22.00 น.Thailand travel fest

งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ณ สวนลุมพินี ในวันที่ 25-29 มกราคม 2560 เวลา 14.00 - 22.00 น.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวมหกรรมท่องเที่ยวเป็นมหกรรมแรกในรอบปี 2560 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
กับ 
งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ในวันที่ 25-29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น. 
รับรองตระการตา ทั้งแนะนำที่เที่ยว และของกิน ^o^

โดยงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 จัดขึ้นใน Theme "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" เสมือน "ยกเมืองไทย 77 จังหวัดมาไว้ในงานนี้" 
ท่านจะพบกับกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ มากมาย ภายในงานประกอบด้วย 10 โซนพื้นที่


คลิป ท่องเที่ยวเมืองไทย



Cr.www.tiewpakklang.com